บอกต่อเคล็ดลับ เลือกโคมไฟสำหรับห้องต่าง ๆ ในบ้าน สไตล์ไหนที่เป็นคุณ
บอกต่อเคล็ดลับ เลือกโคมไฟสำหรับห้องต่าง ๆ ในบ้าน สไตล์ไหนที่เป็นคุณ
จะเลือกประเภทโคมไฟแบบไหนดี ถึงจะเหมาะ และตอบโจทย์กับความต้องการของสมาชิกทุกคนในบ้าน วันนี้ Starlight พร้อมแนะนำขั้นตอนในการเลือกโคมไฟสวยๆ ให้เหมาะกับบ้านคุณได้รู้ก่อนใคร
6 ขั้นตอนการเลือกโคมไฟให้เหมาะกับบ้าน
1. วัดขนาดพื้นที่ติดตั้งโคมไฟ :
ขนาดพื้นที่ที่ต้องการติดตั้งโคมไฟ เป็นสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึง เพื่อช่วยในการกำหนดจำนวนของหลอดไฟที่ต้องใช้ และขนาดของหลอดไฟ เช่น หากเป็นห้องที่มีขนาดค่อนข้างกว้าง ก็สามารถเลือกใช้โคมไฟแบบระย้า หรือโคมไฟแขวน เพื่อเพิ่มลูกเล่น และทำให้ห้องดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าเป็นห้องที่มีพื้นที่จำกัด ก็อาจจะเลือกโคมไฟเพดานแบบฝังฝ้า หรือโคมไฟดาวน์ไลท์มาใช้งานแทน เป็นต้น
2. ความสูงของเพดาน :
การวัดความสูงของเพดาน เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เนื่องจากความสูงของเพดานในตำแหน่งที่ต้องการติดตั้ง จะส่งผลต่อการเลือกขนาดของโคมไฟที่นำมาติดตั้ง เพราะคงไม่มีใครอยากติดตั้งโคมไฟแชนเดอร์เลียที่มีความยาว และน้ำหนักค่อนข้างมากในห้องที่มีเพดานต่ำ จนทำให้ห้องดูอึดอัด ไม่สมส่วน หรือเลือกติดตั้งโคมไฟเพดานขนาดเล็กไว้ในห้องโถงที่สูง และกว้างขวาง จนทำให้บริเวณนั้นขาดความโอ่อ่า หรือลดทอนความหรูหราลงไปได้
3. โคมไฟที่เหมาะกับสไตล์ห้อง :
เวลาของการเลือกรูปแบบโคมไฟสวยๆ ที่ถูกใจ และเหมาะกับสไตล์การแต่งห้องมาใช้งาน โดยคุณจะต้องคำนึงถึงการตกแต่งโดยรวม หรือ Theme ของบ้านว่าตอนนี้ตกแต่งด้วยสไตล์ไหนอยู่ หรือต้องการตกแต่งบ้านให้เป็นสไตล์ไหน เมื่อกำหนด Theme ของบ้านได้แล้ว จึงค่อยไปเลือกซื้อโคมไฟที่เข้ากับสไตล์การแต่งบ้านที่เราต้องการ ซึ่งถ้าใครไม่แน่ใจว่าโคมไฟแบบไหนที่เหมาะกับบ้านของเรา ก็แนะนำว่าให้ลองถ่ายรูปบ้าน หรือบริเวณที่ต้องการติดตั้งโคมไฟ แล้วขอคำแนะนำจากพนักงาน หรือจะใช้วิธีเปิดดู Reference จากเว็บไซต์แต่งบ้านก็ได้เช่นกัน
4. แสงสว่างมีความเหมาะสม :
การเลือกแสงของหลอดไฟ LED ที่เหมาะกับพื้นที่ที่ทำการติดตั้งโคมไฟตั้งพื้นจะช่วยเพิ่มบรรยากาศ และให้แสงที่เหมาะสมกับการใช้งานพื้นที่นั้นๆ ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นก่อนทำการเลือกซื้อหลอดไฟสำหรับโคมไฟตั้งพื้น จึงควรทำความรู้จักกับแสงไฟประเภทต่างๆ ให้ดีเสียก่อน เพื่อเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน
5. เลือกขนาดหลอดไฟให้เหมาะสม :
นอกจากห้องแต่ละห้องจะมีดีไซน์ที่แตกต่างกันแล้ว ยังมีความสว่างที่ต้องการแตกต่างกันไปด้วย หากสไตล์ห้องที่ต้องการติดตั้งโคมไฟแขวนนั้นเน้นไปทางโทนมืด ก็ควรเลือกหลอดไฟดาวน์ไลท์ MR16 และเลือกกำลังไฟประมาณ 5w-7w แต่หากเป็นห้องที่ต้องการแสงสว่างอย่างทั่วถึง ก็อาจจะเลือกหลอดไฟดาวไลท์ E27 และเลือกกำลังไฟประมาณ 8w-15w ตามความต้องการ และหากไม่แน่ใจว่าจะเลือกความสว่างเท่าไหร่ดี จึงจะเหมาะกับการใช้งาน
6. ซื้อกับร้านที่ได้มาตรฐาน :
ขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้คุณได้โคมไฟสวยๆ มีคุณภาพ และได้มาตรฐานไปใช้งานก็คือ การเลือกซื้อโคมไฟกับร้าน โชว์รูม หรือตัวแทนจำหน่ายที่ได้มาตรฐาน มีโคมไฟให้เลือกซื้อหลากหลาย และสามารถเช็กคุณภาพก่อนซื้อได้ และเนื่องจากโคมไฟสวยๆ ที่เราซื้อมาจะต้องอยู่กับเราไปอีกนาน และยังส่งผลเรื่องความปลอดภัยโดยตรง ดังนั้นจึงควรมีการรับประกันสินค้า และบริการหลังการขายให้ด้วยเช่นกัน และถ้าหากในตอนนี้คุณต้องการซื้อโคมไฟสวยๆ จากร้านที่ได้มาตรฐาน แวะมาที่ Starlight รับรองว่าไม่มีผิดหวัง แถมได้ของครบจบในที่เดียว
ห้องนอน :
โดยปกติไฟในห้องนอนจะมีทั้งไฟที่ส่องแสงสว่างให้แก่ห้อง และไฟสลัวที่ชวนเพิ่มบรรยากาศ การใช้โคมไฟตั้งโต๊ะเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ลองติดโคมแบบติดเพดานเพิ่มเข้าไป เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะมีแสงสว่างเพียงพอในห้อง โดยอาจเลือกแบบที่สามารถควบคุมความสว่างได้ นอกจากนี้หากเป็นห้องนอนของเด็ก การเลือกโคมไฟเพดานเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าโคมไฟแบบแขวนในด้านความปลอดภัยจากการเล่นซนของเด็ก ๆ
ทริคการติดตั้ง : โคมไฟควรอยู่สูงจากโต๊ะข้างเตียง 30-50 ซม. เพื่อสะดวกในการวางหนังสือหรือโทรศัพท์
ห้องรับประทานอาหาร :
ห้องรับประทานอาหารหรือบริเวณโต๊ะทานอาหาร เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ของบ้านที่นิยมในการใช้โคมไฟประดับตกแต่ง เพราะโต๊ะอาหารถือเป็นหน้าบ้านของบ้าน ดังนั้นการใช้โคมไฟเพดานมาติดบริเวณดังกล่าว จะช่วยเสริมความน่าสนใจของบ้านมากขึ้น
ทริคการติดตั้ง : ควรติดตั้งโคมไฟมีขนาด 1 ใน 3 ของความกว้างโต๊ะอาหาร เช่น โต๊ะกว้าง 90 ซม. ตัวโคมไฟควรมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางที่ 30 ซม. และติดตั้งความสูงโคมไฟแขวนสูงจากโต๊ะอาหาร 70- 90 ซม
ห้องนั่งเล่น :
การติดตั้งโคมไฟเพดานภายในห้องนั่งเล่น เป็นการแสดงให้ถึงรสนิยมของเจ้าของบ้านที่ส่งผ่านโคมไฟเพดาน โดยห้องนั่งเล่นถือเป็นหน้าตาของบ้านและเป็นพื้นที่รวมตัวของสมาชิกภายในบ้าน ดังนั้นการแต่งห้องนั่งเล่นด้วยโคมไฟเพดานจึงต้องคำนึงถึงทั้งความสวยงาม และความปลอดภัย
ทริคการติดตั้ง : เพื่อให้ไม่มีสิ่งกีดขวางทางสายตาสำหรับผู้ที่นั่งบนโซฟาให้ปล่อยโคมไฟไว้ที่ความสูง 150 -170 ซม. ให้สัมพันธ์กับส่วนบนของโต๊ะกาแฟ หรือ วัดจากพื้นควรสูงจากพื้น 180 - 210 ซม.
ห้องครัว หรือ เคาร์เตอร์บาร์ :
โดยเลือกโคมไฟที่มีการกระจายแสงได้ดี เพิ่มแสงในการทำอาหาร ทำให้การประกอบอาหารสะดวก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ควรจะมีองค์ประกอบของโคมไฟเยอะ เพราะมีโอกาสที่ฝุ่นจะเข้าไปสะสมโคมไฟและร่วงลงมาที่อาหารได้
ทริคการติดตั้ง : โคมไฟควรแขวนสูงจากเคาน์เตอร์ 200 ซม. เนื่องจากบริเวณดังกล่างมีไวเพื่อยืนประกอบอาหาร จึงไม่เหมาะกับการแขวนโคมไประยะต่ำ ระยะห่างจากกันอย่างน้อย 70 ซม. เพื่อไม่ให้เกิดมุมอับที่บดบัง วิสัยทัศน์ในการมองเห็นของผู้นั่ง
ระยะการติดโคมไฟแขวนให้เหมาะสม
ถ้าคุณกำลังสร้างบ้านหนึ่งหลังซึ่งประกอบไปด้วยห้องต่างๆ มากมาย เช่น ห้องนอน ห้องครัว ห้องรับแขก การเลือกโคมไฟให้เข้าในแต่ละพื้นที่ของบ้านก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะโคมไฟแขวน การติดตั้งในระยะที่ถูกต้องจะทำให้บ้านของคุณดูสวยงาม ยังช่วยการให้แสงสว่างเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
การพิจารณาพื้นที่สำหรับการติดตั้งก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อให้โคมไฟมีความสมดุล และได้สัดส่วนกับห้อง จะทำให้พื้นที่บ้านของคุณมีความสวยงาม และให้ประสิทธิภาพของแสงสูงสุด
Starlight ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมมาตรฐานโรงงานผลิต